ผู้เขียน หัวข้อ: สุภาพบุรุษจุฑาเทพ "คุณชายปวรรุจ" วันที่ 9 เมษายน 2556  (อ่าน 666 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ RobotNew

  • Moderator
  • *****
  • กระทู้: 3411
  • Level:
    0%
  • Thank : 0
    • ดูรายละเอียด
    • สะกิดข่าว
    • อีเมล์

 พอไปถึงเห็นท่าทางอิ่มที่กำลังถ่ายรูป อ้ายเอื้อยก็หัวเราะลั่นออกมา อั๋นดีใจมากที่ได้เจอกับฝาแฝดอีกครั้ง อ้ายต่อว่าอิ่มที่ไปว่ารสา อิ่มไม่รู้ว่ารสาเป็นใคร หาว่ารสาเป็นยายซิ้มหน้าซีด อิ่มกับอ้ายปะทะคารมกันอย่างดุเดือด อั๋นเห็นท่าไม่ดีรีบดึงตัวอิ่มออกมา ส่วนเอื้อยก็ลากตัวอ้ายออกไปอีกทาง
     
    รสาเดินหลงไปอีกด้านหนึ่งของปราสาท แล้วเกิดอาการงง ๆ เพราะกลับทางเดิมไม่เจอ นักท่องเที่ยวเหลือน้อยลงทุกที รสาเดินตามนักท่องเที่ยวต่างชาติไป แต่ทุกคนกลับเดินเข้าทางแยกไปจนหมด เหลือรสาเดินอยู่ลำพัง
    
    รสาเริ่มหวั่นใจเพราะความเก่าแก่ของปราสาท ยิ่งทำให้บรรยากาศน่ากลัว รสารีบเดินเร็ว จนมาสุดทางเดิน มองตรงไป เหมือนตาฝาดพร่ามัวไปชั่วครู่ เพราะที่รสาเห็นยืนอยู่สุดโถงนั้นคือร่างของปวรรุจที่กำลังยืนดูศิลปกรรมฝาผนังอยู่ รสาเดินตรงมาหาปวรรุจด้วยความรู้สึกว่าเธออาจจะฝันไป ปวรรุจหันมาพอดี “คุณชาย นี่ฉันฝันไปรึเปล่า”
    
    “ทำไมคิดอย่างนั้น”
    
    “ทางเดินนี่ทั้งเปลี่ยวทั้งหนาว กำลังคิดว่าตัวเองจะไปทางไหนดี แล้วฉันก็เห็นคุณชาย”
    
    “หลงทางอีกแล้วใช่ไหม”
    
    “ค่ะ แต่พอมาพบคุณชายฉันก็แน่ใจว่าฉันไม่หลงอีกแล้ว เฮ้อตอนแรกที่เห็นคุณชาย ฉันคิดว่าตัวเองตาฝาดไปเสียอีก”
    
    “ฉันเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันตอนที่เห็นเธอ”
    
    “ทำไมคะ”
    
    “บทเธอจะหายไป เธอก็หายไปจากโลซานอย่างไร้ร่องรอย แล้วบทเธอจะมา เธอมาปรากฏตัวอยู่ในปราสาทชิยองเหมือนปาฏิหาริย์”
    
    “ขอโทษค่ะที่ฉันไม่ได้ลาคุณชายกับคุณปกรณ์ วันนั้นเรากำลังรีบเดินทางก็เลยตรงไปสถานีรถไฟเลย”
    
    “เธอพักอยู่ที่นี่เหรอ”
    
    “ฉันอยู่มองเตรอซ์มาสี่วันแล้วค่ะ วันนี้เพิ่งออกมาเที่ยว แล้วคุณชายล่ะคะ”
    
    “ฉันเพิ่งเสร็จงานที่เจนีวา มีเวลาว่างช่วงอาทิตย์นี้ก็เลยถือโอกาสมาเที่ยว ก่อนจะถึงการประชุมใหญ่ในอาทิตย์หน้าไปทั้งเดือน”
    
    “บังเอิญจังเลยนะคะที่เรามาเจอกันอีกครั้ง”
    
    “มันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็ได้”
    
    “หืมม์...อะไรนะคะ”
    
    “ไม่รู้ซี...ฉันนึกอยู่เสมอว่าจะต้องได้เจอเธออีกแน่ ๆ”
     
    อ้าย เอื้อยเดินมาเจอกับปกรณ์เข้าโดยบังเอิญ ทั้งสองเลยได้รู้ว่าปกรณ์เป็นคนพาปวรรุจ อิ่ม อั๋นมาเที่ยว ด้านอิ่มกับอั๋นหลังถ่ายรูปเสร็จ เดินไปเจอรสากับปวรรุจกำลังยืนคุยกันอยู่ อิ่มรีบถลาเข้าไปกอดแขนปวรรุจแน่น
    
    “คุณชายขา...มาเสียเวลาอยู่ตรงนี้ทำไมคะ เราจะลงไปดูคุกใต้ดินกันดีกว่า”
    
    “ฉันเพิ่งพบรสาเมื่อกี้ รสานี่คุณอิ่ม คุณอั๋น หลานของท่านทูตพลเทพ ทั้งสองคนมาเรียนต่อที่สวิส”
    
    รสาอึ้งไปเล็กน้อยกลัวว่าทั้งสองจะเคยเห็นรูปของตนจากท่านทูตบ้างรึเปล่า แต่ก็คงไม่ “สวัสดีค่ะ”
    
    “ไม่แนะนำตัวเองให้รู้จักบ้างเหรอคะ รสานามสกุลอะไร ตระกูลไหน จะได้รู้เทือกเถาเหล่ากอ”
    
    “คงไม่สำคัญหรอกค่ะ ฉันก็แค่ลูกพ่อค้าคนนึง”
    
    “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ไม่งั้นคงไม่เสียกิริยา เที่ยวหัวเราะเยาะคนเขาไปทั่วแบบนี้”
    
    รสาหน้าตึงขึ้นมา “ขอโทษนะคะที่หัวเราะขำไปเมื่อกี้ เพราะตอนแรกนึกว่าคุณคือพวกละครเร่ โชว์ตลกที่เขามักเล่นกันที่สาธารณะ ไม่นึกว่าจะเป็นของจริง”
    
    “หา...นี่เธอว่าฉันเป็นพวกละครเร่งั้นเหรอ”
    
    “ค่ะ เพราะมันขำจริง ๆ นี่คะ โมนาลิซา ในกรอบรูป”
    
    ปวรรุจทำหน้างง ๆ “คืออะไรเหรอ โมนาลิซาในกรอบรูป”
    
    “ไม่สาธิตให้คุณชายดูหน่อยล่ะคะ”
    
    ปวรรุจดูการโต้ตอบของรสาอย่างพึงใจ คุณอิ่มโกรธตัวสั่น จังหวะนั้น อ้าย เอื้อย ปกรณ์เดินเข้ามาพอดี
    
    “เจอกันอีกแล้วครับคุณรสา อ้าว เจอเจ้ารุจแล้วเหรอครับ”
    
    “ค่ะ เจอแล้วกำลังจะไปแล้ว หนูอ้าย หนูเอื้อย เราไปกันเถอะ อย่ารบกวนคุณชายและเพื่อน ๆ ของเขาเลย”   

                         


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เดลินิวส์-ข่าวบันเทิง

 
แชร์บทความ...
โค้ดแบบ forum
(BBCode)
โค้ดแบบ site/blog
(HTML)